วันพฤหัสบดีที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2553

แพรวา เทพหัสดิน กับการให้สัมภาษณ์เปิดใจครั้งแรกหลังเกิดเรื่อง ขับรถชน


ช่วงเช้าวันนี้ (31 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสาววัยรุ่นผู้ขับรถยนต์ฮอนด้า ซีวิค สีขาว ซึ่งเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุเฉี่ยวชนรถตู้โดยสารบนทางด่วนโทลล์เวย์เมื่อคืนวันที่ 27 ธ.ค. จนทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 9 รายและได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนมาก ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ผ่านรายการเช้าข่าวข้น คนข่าวเช้า ซึ่งออกอากาศทางโมเดิร์นไนน์ทีวีทั้งนี้ นายกนก รัตนวงศ์สกุล หนึ่งในผู้ดำเนินรายการกล่าวว่า เนื่องด้วย พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 และเยาวชนผู้นี้ยังอายุไม่ครบ 18 ปี จึงไม่สามารถเอ่ยชื่อได้
       
       สาววัยรุ่นคนดังกล่าวให้สัมภาษณ์ระบุเสียใจต่อเหตุการณ์ และขอรับผิดที่ประมาทขับรถเร็ว มิฉะนั้นคงไม่เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง ยันไม่ได้กดเล่นบีบีในวันเกิดเหตุ แต่พยายามติดต่อประกันภัย เผยอายุ 17 ปี ไม่ใช่ 18 ปีตามที่มีกระแสข่าว และอยากไปงานศพผู้เสียชีวิตแต่กระแสสังคมยังไม่เอื้อ โดยรายละเอียดการสัมภาษณ์แบบคำต่อคำมีดังนี้
       
       พิธีกร : สวัสดีครับ น้องครับ
       สาววัยรุ่น : ฮัลโหล ... สวัสดีค่ะ
       
       พิธีกร : หนูอยากจะพูดอะไรฮะ
       สาววัยรุ่น : เออ ... อยากแสดงความเสียใจนะคะ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ตัวหนูเองไม่ได้มีเจตนาอะไรทั้งสิ้น ที่จะทำให้เกิดการสูญเสียในครั้งนี้ค่ะ
       
       พิธีกร : หนูลองเล่าเหตุการณ์ให้ฟังนิดนึง ว่ามันเกิดอุบัติเหตุครั้งนั้นได้อย่างไร
       สาววัยรุ่น : เผอิญตอนนั้นหนูขับรถอยู่เลนขวานะคะ แล้วก็เห็นรถตู้อยู่ข้างหน้า แต่ว่ารถวิ่งอยู่เลนขวา เขาขับรถกินเลนเข้ามานิดนึง หนูเลยเปิดไฟสูงขอทางใช่ไหมคะ ก็ รถตู้ก็กลับเข้าไปใหม่ แต่พอหนูเข้าไปในระยะใกล้ขึ้นพยายามเร่งเพื่อที่จะแซงไป พอดีรถตู้เขาโผล่ออกมาอีกทีหนูเลยตกใจน่ะค่ะ บีบแตร แล้วก็หักหลบไป พอหักหลบปุ๊บ รถหนูเสียหลัก ใช่ไหมคะ ตัวหนูไหลเข้าไปอยู่ใต้แผงคอนโซล แล้วก็เกิดการกระแทกอย่างแรง แล้วก็หนูไม่ได้เห็นเหตุการณ์ เพราะว่าตัวได้ไหลเข้าไปใต้แผงคอนโซล แล้วหนูก็ไม่ได้คาดซีทเบลท์ (เข็มขัดนิรภัย) ไงคะ ก็รู้สึกกระแทก แล้วก็ลุกขึ้นมาอีกทีนึง เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยออกมาจากรถไงคะ แล้วก็ภาพที่เห็นกดโทรศัพท์เนี่ย คือต้องโทรเรียกประกันใช่ไหมคะอย่างแรก เพราะว่าเจ้าหน้าที่ไม่ส่งโรงพยาบาลจนกว่าจะโทรเรียกประกัน และก็แจ้งพวกพ้องให้ทราบก่อน ... ค่ะ
       
       พิธีกร : ขับรถตอนนั้นเนี่ยความเร็วเท่าไหร่ จำได้ไหมครับ
       สาววัยรุ่น : จำไม่ได้ค่ะ
       
       พิธีกร : แต่ดูกล้องในวงจรปิด ก็เร็วมากนะครับ ทำไมเร่งเร็วขนาดนั้น
       สาววัยรุ่น : เร็วมากไหนคะ (เสียงงงๆ) อันนี้ขอไม่ตอบแล้วกันนะคะ เพราะว่าถ้ามีผลอะไรก็แล้วแต่ที่จะต้องให้ปากคำกับตำรวจ หนูขอไม่พูดนะคะ
       
       พิธีกร : ซึ่งก็หนูคงทราบแล้วใช่ไหมคะว่าวันที่ 5 มกราคม ใช่ไหมครับ
       สาววัยรุ่น : ใช่ค่ะ ทราบค่ะ
       
       พิธีกร : ก็คงจะไปแน่
       สาววัยรุ่น : อันนี้ต้องถามผู้ปกครองอีกทีนึงค่ะ แต่ไม่น่าจะมีอะไรผิดพลาดก็คงจะไปนะคะ
       
       พิธีกร : แล้วตั้งแต่ช่วงนี้ไปจนถึงวันที่ 5 หนูจะทำอะไร ความตั้งใจ
       สาววัยรุ่น : คง ... อันนี้ก็ คือ ยังไม่แน่นอนเหมือนกันค่ะ
       
       พิธีกร : คือเมื่อวานนี้เราคุยกับคุณแม่ แล้วก็ได้สอบถามคุณแม่
       สาววัยรุ่น : (พูดแทรก) คงต้องไปบวชอ่ะค่ะ หรือ ไปถือศีลอยู่สักพักนึงค่ะ
       
       พิธีกร : อ๋อ ครับ คือตอนแรกเราก็ถามคุณแม่ว่า คุณแม่อยากจะออกมาแถลงขอโทษ แสดงความเสียใจอย่างเป็นทางการไหม คุณแม่ก็บอกว่าช่วงนี้หลายๆ อย่างยังไม่คลี่คลาย ก็อยากให้คดีคลี่คลาย ถามตัวหนู หนู อยากจะออกมาพูดอะไรกับพี่ๆ สื่อมวลชน หรืออยากจะออกมาสื่ออะไรไปถึงครอบครัวของผู้ที่สูญเสียไหมครับ
       สาววัยรุ่น : อย่างแรกเลยค่ะ หนูขอแสดงความเสียใจนะคะ เพราะว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุค่ะ หนูไม่ได้ตั้งใจ แล้วก็เกิดขึ้นจากความประมาท อันนี้ยอมรับผิดนะคะ เพราะว่าถ้าหนูไม่ขับเร็วในวันนั้น เหตุการณ์นี้ก็คงไม่เกิดขึ้น หรืออาจจะไม่รุนแรงขนาดนี้ แต่หนูพยายามเต็มที่แล้วที่จะหักหลบ เพียงแต่ว่ารถมันเสียหลัก แล้วไปกระแทก อันนี้หนูขอโทษจริงๆ ค่ะ
       
       พิธีกร : หนูอยากจะไปงานศพของผู้ที่เสียชีวิตไหมครับ
       สาววัยรุ่น : อยากนะคะ ... แต่ว่าด้วยสถานการณ์แล้วสื่อที่ออกไป ภาพมันค่อนข้างรุนแรงนิดนึง
       
       พิธีกร : ลองถามน้องในทางกลับกันนะคะ ว่าเข้าใจเพราะเมื่อวานคุณแม่ก็อธิบายไปแล้ว ตัวหนูเองก็พูดเมื่อสักครู่ ถามในอีกมุมหนึ่งว่าถ้าเราได้ออกมาแสดงอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยไม่ระบุถึงว่าใครเป็นคนผิด ใครเป็นสาเหตุ จะช่วยลดแรงเสียดทานได้ไหมคะ
       สาววัยรุ่น : ถ้าเป็นอย่างนั้นก็อย่างที่บอกว่า ก็คงออกมาแสดงความเสียใจ
       
       พิธีกร : เช่นการแถลงข่าวผ่านนักข่าว หรือ ติดต่อไปทางตัวญาติพอจะได้ไหมคะ
       สาววัยรุ่น : พอจะได้ค่ะ (พูดงงๆ)
       
       พิธีกร : จริงๆ ใจพวกเราเนี่ย อยากจะให้ครอบครัวหนู หรือยังไงก็ตามแต่ ได้ออกมาพูดอะไรบ้าง อันนี้ก็แล้วแต่ทางหนูจะปรึกษาหารือกับคุณพ่อคุณแม่นะครับ
       สาววัยรุ่น : ท่านเพิ่งเล่ารายละเอียดทั้งหมดให้หนูฟังว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องหนูไม่ได้เข้าอินเทอร์เน็ต แล้วก็ไม่ได้เล่นบีบี โทรศัพท์หนูไม่ได้อยู่กับตัวตั้งแต่คืนที่เกิดเหตุ แล้วก็คือไม่ได้รับรู้ถึงกระแสเป็นอย่างไงบ้าง ส่วนคุณหมอก็ให้ยาเพื่อที่จะให้พักผ่อน เพิ่งที่จะมารู้ทุกอย่างชัดก็เมื่อคืนนี้
       
       พิธีกร : คือเรื่องบีบีมันมีข่าวบางกระแสในเว็บไซต์ว่าหนูไปโพสต์เล่น
       สาววัยรุ่น : ไม่มีค่ะ ... หนูไม่เล่นทวิตเตอร์นะคะ เฟซบุ๊คมีอันเดียว ไฮไฟว์ไม่เล่น แล้วหลังจากเกิดเหตุการณ์ปุ๊บ ไม่มีการอัพเดตสถานะใดๆ ทั้งสิ้นนะคะ ไม่ว่าจะเป็นแบล็คเบอรี่ เฟซบุ๊ค หรือ ข้อความอะไรร้ายแรงที่เกี่ยวกับเหตุการณ์ก็แล้วแต่ อันนี้ขอย้ำว่าไม่มีเลยจริงๆ นะคะ
       
       พิธีกร : เฟซบุ๊คถูกไปไปแล้วใช่ไหมคะ
       สาววัยรุ่น : เฟซบุ๊คถูกปิดไปไม่เกินหนึ่งวันหลังจากที่เกิดเรื่องค่ะ
       
       พิธีกร : ตอนนี้อาการบาดเจ็บเป็นยังไงบ้างครับ
       สาววัยรุ่น : สภาพทางร่างกายดีขึ้นค่ะ ดีขึ้นเรื่อยๆ ส่วนสภาพจิตใจก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่
       
       พิธีกร : ตอนนี้อยู่ที่บ้านหรืออยู่ที่โรงพยาบาลคะ
       สาววัยรุ่น : อันนี้ขอไม่ตอบแล้วกันนะคะ
       
       พิธีกร : หนูติดตาม เห็นภาพทางหนังสือพิมพ์ทางสื่อแล้วคิดยังไง
       สาววัยรุ่น : ตอนนี้รู้สึกเสียใจจริงๆ ค่ะ ตอนนี้คิดอย่างอื่นไม่ออกจริงๆ
       
       พิธีกร : คุณพ่อคุณแม่คงไม่แนะนำให้ใช้อินเทอร์เน็ตเลยใช่ไหมครับ ช่วงนี้
       สาววัยรุ่น : ท่านไม่ให้ยุ่งเลยค่ะ เพียงแต่บังเอิญเริ่มจากเห็นหนังสือพิมพ์ก่อน จากหัวข่าวหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง เลยถามจากท่านปรากฎก็รู้ชัดเมื่อคืนว่ากระแสภายนอกเป็นยังไง ตัวหนูเองก็ตกใจเหมือนกัน ก็เลยต้องออกมาพูดอะไรสักอย่างนึง เพราะว่าตอนแรกท่านไม่อยากให้กระทบกระเทือนไปมากกว่านี้
       
       พิธีกร : ท่านไม่อยากให้รับสื่อเลย ขอถามนิดเดียว พอดีทราบมา ก็ไม่อยากเอาคำถามอย่างนี้มาไล่ถาม เผอิญมีคำถามช่วงหลังว่าตกลงหนูอายุ 16 หรือ 18 ปี
       สาววัยรุ่น : 17 ปีค่ะ
       
       พิธีกร : คนพูดถึงเหมือนกันว่าอายุเท่านี้ใบขับขี่ยังไม่ได้รับ แล้วเอารถมาขับได้ยังไง
       สาววัยรุ่น : อันนี้หนูไม่ขอตอบ เพราะว่ามันต้องพาดพิงถึงบุคคลที่สาม
       
       พิธีกร : อันนี้หนูคงรู้ว่าตัวว่าหนูผิดอยู่แล้วนะครับ ก็เป็นหนึ่งในสองข้อหาจากทางตำรวจนะครับ
       สาววัยรุ่น : หนูทราบค่ะ
       พิธีกร : ขอบคุณครับ สวัสดีครับ

3 ความคิดเห็น:

  1. อีแพรวา อีฆาตรกร

    พ่อเป็นเชี้ยไม่มีจิตสำนึก.. แม่เป็นนาธานลูกเลวก็ว่าไปตามรูป แก้ตัวแบบนี้ลดกระแสสังคมไม่ได้หรอกครับไม่ได้รู้สึกอายบ้างเลยเหรอ.. ถ้าแม่สตอบอรี่ได้ขนาดนี้ ลูกก็คงเหมือนสุภาษิตไทย ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น..แล้วข้อความที่แพรวาโพสต์ใน BB กับ FB มันคืออะไร
    ไร้สำนึกแบบนี้..น่าจะมาจากการสั่งสอน
    เค้าถึงว่า "ดูช้างให้ดูหางดูนางให้ดูแม่"
    ก็พ่อแม่มันเป็นงี้..ลูกไม้ก็หล่นไม่ไกลต้นหรอก
    .....
    คิดว่าคนอ่านข่าวกินหญ้าแทนข้าวหรือไงฟระ?.... อี แพรวา อิ เด็กเลว อี ฆาตรกร อีขยะสังคม

    ตอบลบ
  2. งงๆ แฮะ ตอนที่เล่าเห็นการทำไมต้องพูดว่าไงๆๆๆๆๆ งงมากเลย ก็หนูอยู่เลนนี้ไง แล้วเข้าขับมาไง งงอ่านะค่ะ - -* อีกอย่างจากที่ดูในข่าวตามโทรทัศน์แล้วมีภาพวงจรปิดเนี่ย เอ่อจะบอกว่า เห็นรถตู้อยู่เลนกลางอ่าค่ะ แล้วน้องขับจี้ตามหลังเค้ามา แล้วตามภาพเหตุการณ์ในกล้องวงจรปิดเหมือนน้องพยายามจะแซงซ้าย แต่แซงไม่พ้นชนเข้ากับท้ายรถตู้แล้วรถตู้ก็เอียงออกนอกเลนไปทางเลนขวา ไม่ใช่หรอค่ะน้องงงงงง แล้วน้องบอกว่าน้องขับเลนขวา จากภาพวงจรปิดมันเห็นว่าน้องจี้ตูดรถตู้มาชัดๆ เลยนะนั้น - -* พี่ก็พูดตามภาพที่เห็นอ่านะค่ะ

    ตอบลบ
  3. ^
    ^
    ^ แหมๆ พวกคุณพูดเกินไปหรือเปล่า ถ้าพวกคุณขับรถชนคนตายมั่ง แล้วก็มีเครดิตเหมือนน้องเค้า พูดทำหยั่งกะพวกคุณจะไม่ใช้เครดิตเหมือนน้องเค้า ฮะๆ อย่าบอกนะว่าคุณจะยอมเดินเข้าคุกง่ายๆ จะด่าอะไรใครเค้าก็อย่าเยอะไป ตัวพวกคุณเองยังทำไม่ได้เลย ถุย!

    ตอบลบ